10.2.10

[Movie Storyline] Confucius (2010) /ขงจื้อ : ปรัชญาและเรื่องย่อ




[Movie Storyline] Confucius (2010) /ขงจื้อ : ปรัชญาและเรื่องย่อ
Roytavan : Editor - Original : http://twssg.blogspot.com/

Confucius (2010) /ขงจื้อ

ผลงานทุนสร้าง 700 ล้านบาท ฝีมือจากผู้กำกับภาพรางวัลออสการ์ ปีเตอร์ เปา จาก Crouching Tiger, Hidden Dragon และผู้ออกแบบงานสร้าง หยีจงหมั่น แห่ง The Curse of Golden Flower โดยได้นักแสดงเจ้าบทบาท โจวเหวินฟะ มารับบท
“ขงจื้อ”

Confucius คือภาพยนตร์ที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติให้กับการครบรอบวันเกิดของ ขงจื๊อ ปีที่ 2,560 และเป็นการเฉลิมฉลองครอบรอบ 60 ปี ของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน


ขงจื๊อคือใคร ?

ลัทธิขงจื๊อก่อตั้งและถูกใช้สอนให้กับผู้มามากกว่า 3 ศตวรรษ ก่อนที่ประเทศจีนจะถูก จิ๋นซีฮ่องเต้ รวมเป็นหนึ่ง ขงจื๊อ เกิดในแคว้นหลู่ช่วงกลียุค ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลซางตง ชื่อเสียงของเขาคือการเป็นนักคิดและนักปรัชญา ขงจื๊อ ชนะใจผู้นำแคว้นต่างๆจนได้รับโอกาสดำรงตำแหน่งเป็นผู้สำเร็จราชการ

แต่ศัตรูทางการเมืองบีบบังคับให้เขาพ้นจากตำแหน่ง ขงจื๊อ ใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายในการท่องไปตามหัวเมืองต่างๆ โดยการสอนและมีลูกศิษย์ผู้เลื่อมใสติดตามไปทุกหนทุกแห่ง ในช่วงกลียุคที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและสงครามระหว่างเมือง เขาได้สอนถึงความสำคัญของอารยธรรม ศีลธรรม และการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในสังคม บรรดาลูกศิษย์ของเขาได้รวมรวบคำสอนเอาไว้ใน คัมภีร์หลุนอวี่ ซึ่งถูกตีพิมพ์เอาไว้เมื่อ 2,000 กว่าปีที่แล้ว

ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ขงจื๊อ จากโลกไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง แต่คำสอนของเขาก็กลับขึ้นมามีชีวิต ราชวงค์แล้วราชวงค์เล่า คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า หลักคำสอนของ ขวจื๊อ กลายเป็นฐานหลักที่มั่นคงของอารยธรรมชาติจีน ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงเรื่องราวของชีวิตที่ต้องระหกระเหินของนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ และอาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จัก



Confucius /ขงจื้อ : เรื่องย่อ

ประเทศจีนในยุคชุนชิว ซึ่งเป็นยุคแห่งการแย่งชิงอำนาจของเจ้านครต่างๆที่ต่างต้องการขยายอาณาเขต แคว้นหลู่ก็ไม่แตกต่างกัน เมื่อผู้นำแคว้นไม่มีอำนาจใดๆ เพราะอำนาจที่แท้จริงนั้นก็ถูกกระจายให้กับสามตระกูลใหญ่ตามหัวเมือง

เจ้านครหลู่รู้สึกประทับใจการทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการของ ขงจื๊อ เขาเชื้อเชิญให้ ขงจื๊อ มาเป็นที่ปรึกษาพิเศษ และมอบหมายให้เขาเป็นผุ้สำเร็จราชการหลวง สิ่งแรกที่ ขงจื๊อ ได้กระทำก็คือการช่วยเหลือทาส ที่ไม่ต้องการถูกฝังทั้งเป็นไปพร้อมกับเจ้านายที่เสียชีวิต แต่ความสำเร็จของเขาทำให้ นายพล กงซานหนิว แห่งกองทัพแคว้นหลู่รู้สึกเป็นปฏิปักษ์

ในศาล ขงจื๊อ ได้สาธิตในเรื่องการใช้ศีลธรรม รวมถึงวางแผนการอันชาญฉลาดในการยึดหัวเมืองทั้งสาม ที่สูญเสียไปให้กับแคว้นชีเมื่อสามทศวรรษก่อน โดยแผนการขั้นต่อไปของเขาก็คือการนำตระกูลทั้งสามกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นหลู่ โดยการสั่งให้พวกเขาทำลายกำแพงที่สูงตะหง่าน ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการไม่ยอมรับการปกครองของเจ้านครหลู่



แต่แล้ว ขงจื๊อ ก็ถูกลอบแทงข้างหลัง เมื่อเจ้านครชีแอบส่งครื่องกำนัลไปให้เจ้านครหลู่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปลดตำแหน่งของ ขงจื๊อ และขับไล่ของจากอาณาจักร ขงจื๊อ ต้องลาจากครอบครัวด้วยความอาดูร และเริ่มชีวิตใหม่ในการเป็นนักปราชญ์เร่ร่อน เขาเดินทางไปพร้อมกับลูกศิษย์ที่เลื่อมใส นำโดย เอี๋ยนหุย ซึ่งยืนยันว่าจะเดินทางตามพระอาจารย์ไปทุกหนทุกแห่ง

ขงจื๊อและศิษย์เอกได้รับจากต้อนรับจากแคว้นวุย ที่หมายจะใช้ประโยชน์จากความรู้ของ ขงจื๊อ ให้มากที่สุด โดยอำนาจลับที่อยู่เบื้องหลังบัลลังค์เจ้านครก็คือนางสนมเอกที่ชื่อ หนานจื่อ ความใกล้ชิดของนางทำให้ ขงจื๊อ และลูกศิษย์รู้ดีว่าถึงเวลาแล้วในการออกเดินทางต่อ พวกเขาร่อนเร่ไปทั้งอาณาจักรอื่นๆจนกระทั่ง ขงจื๊อ ชราภาพ

ในขณะเดียวกันแคว้นหลู่ก็ถูกคุกคามโดยแคว้นชีอีกครั้ง พวกเขาออกตามหา ขงจื๊อ และชักชวนให้เขากลับมาช่วยปกป้องบ้านเกิด แต่ความอับอายที่เป็นตัวการในการขับไล่ ทำให้บุตรชายของเจ้านครหลู่จึงชักชวน หย่านฉิว ซึ่งเป็นนักรบฝีมือฉกาจและเป็นศิษย์เอกอีกคนของ ขงจื๊อ ในที่สุดพวกเขาก็พบ ขงจื๊อ ในอาณาจักรเฉิน เอี๋ยนหุย อ้อนวอนให้ ขงจื๊อ ปล่อยให้ หย่านฉิว กลับไปแคว้นหลู่



เมื่อฤดูหนาวเดินทางเข้ามา ขงจื๊อ และลูกศิษย์ต่างต้องทรมานกับความหนาวเหน็บ ในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางหาบ้านหลังใหม่ เมื่อธารหิมะที่ใช้เดินทางแตก เอี๋ยนหุย ก็เป็นผู้ที่ช่วยรักษาตำราของ ขงจื๊อ เอาไว้ได้ แต่ก็พบกับจุดจบที่น่าเศร้า ขงจื๊อ ที่จมอยู่กับความเศร้าโศกจึงมีนิมิตรถึง เหล่าจื๊อ ผู้นำทางจิตใจของเขา

ลูกชายของผู้สำเร็จราชการนครหลู่ พบกับ ขงจื๊อ และมอบของกำนัลจากบิดาก่อนที่จะสิ้นใจเป็น “แหวนหยก” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความผูกพันระหว่าง ขงจื๊อ และบ้านเกิด ขงจื๊อ ตกลงที่จะเดินทางกลับมายังแคว้นหลู่ แต่ก็กลับมาในฐานะเพียงอาจารย์ เขาไม่ยอมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก และเขาก็รักษาสัญญาไว้จริงๆ เมื่อ ขงจื๊อ ใช้เวลาที่เหลือในชีวิตในการศึกษาตำราและแก้ไขบทกลอนและเขียนถึงประวัติศาสตร์



ข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์

- Confucius ใช้เวลาถ่ายทำกว่า 8 เดือน ตั้งแต่ฤดูหนาวที่เย็นยะเยือก จนถึงฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส โดยการถ่ายทำฉากสงครามที่มีการใช้ไฟ นักแสดงประกอบต้องสวมชุดเกราะที่มีน้ำหนักกว่า 10 กิโล

- ฤดูหนาวในเดือนมีนาคม โจวเหวินฟะ ต้องถ่ายทำฉากที่เขานอนลงในบ่อโคลน โดยต้องถ่ายทำฉากนี้ถึง 13 ครั้ง

- เมื่อ 2,500 ปีก่อน ผู้คนมักจะนั่งคุกเข่าแทนที่การนั่งขัดสมาธิ ดังนั้นในระหว่างการพักถ่ายทำ โจวเหวินฟะ ก็จะนั่งคุกเข่าทุกครั้ง เพื่อที่จะได้เข้าถึงความเป็นอยู่ของคนในยุคชุนชิวมากขึ้น

- ทีมงานทุกคนในกองถ่ายรู้สึกว่า โจวเหวินฟะ เป็นนักแสดงที่ไม่ถือตัวและจริงใจ โดยเขาจะจับมือทุกคนในเวลาที่ต้องการทักทายและแสดงความยินดี ซึ่งทำให้ทุกคนเห็นถึงความเป็น ขงจื๊อ ในจิตวิญญาณของนักแสดงคนนี้

- ชุดที่ โจวซุน สวมในการรับบทเป็น หนานจื่อ ทำด้วยมือมาจากมรกตแท้และขนนกยูง เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่และความรู้สึกสมจริง ในการแสดงให้เห็นถึงตัวตนของ หนานจื่อ ที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่า "สง่างามแต่ไม่อันตราย"

- ฉากที่ใช้เอฟเฟ็คที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือฉากการบุกโจมตีสามหัวเมือง ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเหตุการณ์างปะวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในยุคชุนชิว โดยนี้ยังถือเป็นการใช้เลนส์กล้องที่มีคุณภาพสูงที่สุด ตั้งแต่มีการใช้กันมาในประเทศจีน



หลักปรัชญาขงจื้ออันเลื่องลือ

- เมื่อยากจนก็ยังชื่นชมในคุณธรรม เมื่อมั่งมี ก็ยังชื่นชมในมารยาทจริยธรรม
-ไม่ต้องเป็นห่วงคนอื่นที่ไม่เข้าใจเรา แต่ต้องเป็นห่วงว่าเรา ไม่เข้าใจคนอื่น
- การศึกษา ค้นคว้า ถ้าเอนเอียงไปสุดสายไม่ว่าข้างใดข้างหนึ่ง ก็มีแต่ผลเสียเท่านั้น
- การที่ยอมรับว่าไม่รู้นั้น ก็คือความที่รู้แล้ว
- บัณฑิตคิดถึงว่า ทำอย่างไรจะเพิ่มพูนคุณธรรมของตนได้ คนพาลคิดถึงว่า ทำอย่างไรจึงจะเห็นความเป็นอยู่ของตนสะดวกสบายขึ้น โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม
- บัณฑิตรู้เฉพาะเรื่อง ที่ชอบด้วยคุณธรรม คนพาลรู้เฉพาะเรื่องที่ได้ผลกำไร โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม
- ความผิดอันเนื่องมาจากการประหยัดนั้น มีน้อยเหลือเกิน
- ผู้ที่คุณธรรมย่อมไม่ถูกทอดทิ้งโดยโดดเดี่ยว และจะต้องมีเพื่อนบ้านมาคบหา
- บัณฑิตมีความอ่อนน้อมถ่อมตน รับใช้ราษฎรด้วยสติปัญญา มีความเอื้ออาทร ใช้ราษฎรโดยชอบด้วยเหตุผล
- ไม่คิดถึงความชั่วของคนอื่นในอดีตกาล จึงมีคนโกรธท่านน้อย
- จงเป็นนักศึกษาในแบบบัณฑิต อย่าเป็นนักศึกษาในแบบคนพาล
- ตั้งใจมุ่งมั่นอยู่กับคุณธรรม ยึดมั่นในคุณธรรมไม่ละทิ้งความเมตตาธรรม ท่องเที่ยวไปในศิลปะวิชาการ
- สุรุ่ยสุร่ายเกินไปก็จะอวดหยิ่ง ประหยัดเกินไปก็จะเป็นคนคับแคบ แต่เป็นคนอวดหยิ่งสู้เป็นคนคับแคบดีกว่า - บัณฑิตย่อมมีจิตใจกว้างขวางราบรื่น คนพาลย่อมมีความกลัดกลุ้มอึดอัดตลอดเวลา



- อ่อนน้อมแต่ไม่มีจริยธรรม จะกลายเป็นเรื่องเหนื่อยเปล่า ระมัดระวังแต่ไม่มีจริยธรรม จะเป็นความขลาดกลัว
- กล้าหาญแต่ไม่มีจริยธรรม จะกลายเป็นก่อการร้าย ซื่อตรงแต่ไม่มีจริยธรรม จะเป็นภัยแก่คนอื่น
- ยังปรนนิบัติคนที่มีชีวิตไม่เป็น จะปรนนิบัติเซ่นไหว้เทพเจ้ากับผีได้อย่างไรเล่า
- บัณฑิตมีความสามัคคีต่อกัน แต่ความคิดกับการกระทำไม่เหมือนกัน คนพาลมีความคิดกับการกระทำเหมือนกัน แต่ไม่มีความสามัคคี
- ปรนนิบัติบัณฑิตเป็นเรื่องง่าย แต่ทำให้บัณฑิตรักเป็นเรื่องยากลำบาก เพราะว่าถ้าไม่ชอบด้วยลักษณะธรรมบัณฑิตก็ไม่รัก
- ต่างตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน อยู่กันด้วยความสามัคคี เรียกว่าเป็นนักศึกษาได้
- ในระหว่างเป็นเพื่อนกันต้อง ตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน ในระหว่างพี่น้องต้องสามัคคีกัน
- เมื่อรักเขาจะไม่ให้กำลังใจเขาได้หรือ เมื่อซื่อสัตย์ต่อเขาจะไม่ตักเตือนสั่งสอนเขาได้หรือ
- บัณฑิตย่อมมีความอับอายที่พูดไปแล้วนั้น เกินกว่าที่ทำไป
- ปราชญ์ย่อมหลีกเลี่ยงสังคมที่เลวร้าย สถานที่เลวร้าย มารยาทที่เลวร้าย และวาจาที่เลวร้าย
- ผู้ที่ไม่มีการไตร่ตรองให้ยาว ในอนาคตไกลจะต้องมีภัยที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
- ตำหนิตนเองให้มาก ตำหนิผู้อื่นให้น้อย ก็จะไม่มีใครโกรธแค้น
- รวมอยู่กันเป็นหมู่ ตลอดวันไม่เคยพูดถึงธรรมที่ชอบ ทำตนเป็นคนฉลาดในเรื่องเล็กๆน้อย ต่อไปเห็นจะลำบาก
- บัณฑิตขอร้องกับตนเอง ส่วนคนพาลนั้นจะขอร้องกับคนผู้อื่น
- บัณฑิตทีความภาคภูมิใจในตนเอง โดยไม่แย่งชิงความภาคภูมิใจของคนอื่น บัณฑิตมีความสามัคคี แต่ไม่เล่นพวกกัน



- พูดไพเราะตลบแตลงทำให้สูญเสียคุณธรรม เรื่องเล็กไม่อดกลั้นไว้จะทำให้แผนเรื่องใหญ่เสีย
- ทุกคนเกลียดก็ต้องพิจารณา ทุกคนรักก็ต้องพิจารณา
- เพื่อนที่ซื่อตรง เพื่อนที่มีความชอบธรรม เพื่อนที่มีความรู้ ทั้ง 3 ประเภทนี้มีประโยชน์แก่เรา
- เพื่อนที่ประจบสอพลอ เพื่อนที่ทำอ่อนน้อมเอาใจ เพื่อนที่ชอบเถียงโดยไม่มีความรู้ ทั้ง 3 ประการนี้เป็นภัยแก่เรา
- บัณฑิตมีความกลัวอยู่ 3 ประการ กลัวประกาศิตของสวรรค์ กลัวผู้มีอำนาจ กลัวคำพูดของอริยบุคคล
- นิสัยคนมีความเหมือนกัน แต่การศึกษาทำให้แตกต่างกัน
- เฉพาะคนที่มีปัญญาสูง กับคนที่โง่มากเท่านั้น ที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเขาได้
- รักความเมตตาแต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ถูกหลอกลวงง่าย รักความรู้แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ความรู้นั้นกระจัดกระจายไม่มีฐานที่ตั้ง
- รักความซื่อสัตย์ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นภัยแก่ตนโดยง่าย รักพูดตรงความจริง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่การพูดจะเป็นการทำร้ายผู้อื่นได้โดยง่าย
- รักความกล้าหาญ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ก่อความไม่สงบได้ง่าย รักความเข้มแข็ง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นคนมุทะลุได้ง่าย



- อ่านหนังสือโดยไม่ค้นคิด การอ่านจะไม่ได้อะไร ค้นคิดโดยไม่ได้อ่านหนังสือ การค้นคิดจะเปล่าประโยชน์
- ทบทวนเรื่องเก่าและรู้เรื่องใหม่ขึ้นมาอีก ก็จะเป็นครูได้
- นักศึกษาสมัยก่อน ศึกษาเพื่อให้ตนมีความสำเร็จในการศึกษา นักศึกษาในปัจจุบัน ศึกษาเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าตนเองมีการศึกษา
- ชอบเอาสองคนมาเทียบว่าใครดีกว่าใคร เธอเองเก่งพอแล้วหรือ สำหรับเราไม่มีเวลาว่างมาทำเช่นนั้น
- แสร้งพูดไพเราะ แสดงความน่ารัก เพื่อให้ถูกใจคน คนประเภทนี้น้อยนักที่จะเป็นคนมีเมตตาธรรม
- ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น จึงจะสามารถรักคนด้วยความจริงใจ และจึงสามารถเกลียดคนด้วยความจริงใจ
- ผู้มีปัญญาชื่นชมน้ำ เป็นผู้ขยัน ผู้มีความสุข ผู้มีเมตตา ชื่นชมภูเขา เป็นผู้รักสงบ เป็นผู้มีอายุยืน
- ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น เวลาพูด เขาพูดอย่างเชื่องช้า ไม่พูดเชื่องช้าได้หรือ เพราะเมื่อพูดไปแล้ว ต้องทำตามที่พูดด้วยความลำบาก
- ผู้ที่มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ ซื่อสัตย์ พูดช้าก็ใกล้กับความมีเมตตาธรรมแล้ว
- ผู้มีคุณธรรมต้องมีคำพูดที่ดี แต่ผู้มีคำพูดที่ดี ไม่ต้องใช่เป็นคนที่มีคุณธรรมเสมอไป
- ผู้มีเมตตาธรรมต้องเป็นผู้ที่กล้าหาญ แต่ผู้กล้าหาญ ไม่ใช่ต้องเป็นคนที่มีเมตตาธรรมเสมอไป
- เลี้ยงดูพ่อแม่ให้มีชีวิตอยู่ได้เท่านั้นนะหรือ ถ้าเช่นนั้น หมากับม้าก็ได้รับการเลี้ยงดูให้มีชีวิตอยู่เช่นกัน
-ณฑิตให้ความเมตตากรุณาแก่ผู้อื่น ใช้คนทำงานแต่คนไม่โกรธแค้น ความต้องการของเขาไม่เป็นความโลภ มีความสงบแต่ไม่มีความเย่อหยิ่ง มีความสง่าแต่ไม่มีความโหดเหี้ยม..



Who Was Confucius?

Confucius was China’s most famous Philosopher. He lived in Ancient China during the Zhou Dynasty. Confucius was a government official, and during his lifetime (he lived from 551 to 479 B.C. ) he saw growing disorder and chaos in the system.

Perhaps due to the turmoil and injustices he saw, he set himself to develop a new moral code based on respect, honesty, education, kindness and strong family bonds.
His teachings later became the basis for religious and moral life throughout China.

Confucius believed that strong family values and relationships were key to a stable society. Mutual respect and family loyalty were central to Confucius teachings. This extended to the living as well as the deceased. Paying respect to the ancestors has become an important Chinese tradition. He also stressed the importance of seniority: The old educate the young, and the young respect the old.

“Let the prince be a prince, the minister a minister,
the father a father, and the son a son”



On Knowledge and Education

Confucius was a member of the upper class, but he believed education and knowledge belonged to anyone who had the desire to learn. He opened a school in his home, and legend has it, some of his poorer students lived with him.

He insisted on honesty, hard work, and teaching by example. He taught through conversation, by asking questions and expecting his pupils to find their own answers. He wanted to prepare his students for public service, to develop compassion and respect for others.

"Real knowledge is to know the extent of one's ignorance"


Storyline : Confucius (2010)

The story is based on Confucius, one of the greatest Chinese philosophers of all time. His moral values and educational thoughts still play a great role in East Asian societies these days.

Ironically his teachings were not as popular in his living years (551BC-479BC), where survival was above all else during the wartime period.

Back to the movie… there’s many criticism as the production was ongoing; after all Confucius is almost god-like in Chinese society, and a real-life approach about his story is not going to please everyone.


The selection of Chow Yun Fat to play the epic role drew debates as well; some said his image is too modern, while some teased that he can’t even speak Mandarin properly (he’s Cantonese).

Well, when it comes to showbiz, the $$$ sign rules, and Chow is probably the right choice for international marketability for the film. Another irony considering Confucius teachings that emphasises on moral righteousness above greed lol.

The film is set to premier in early 2010. Sharing a few ‘family photos’ which were released on September 28, supposedly the philosopher’s 2560th birthday.




Confucius Quotes and the Analects

Confucius Sayings were recorded after his death by his followers in a book called the Analects. His teachings are still felt in China today. Here are some more of this famous Chinese Philosopher's Quotes:
“Wheresoever you go, go with all your heart”
“It does not matter how slowly you go so long as you do not stop”
“Our greatest glory is not in never falling, but in getting up every time we do”
“Learning without thought is labor lost; thought without learning is perilous”
“The firm, the enduring, the simple, and the modest are near to virtue”
“What a superior man seeks is in himself; what the small man seeks is in others”
“Everything has its beauty but not everyone sees it”



“He who will not economize will have to agonize”
“He who learns but does not think, is lost. He who thinks but does not learn is in great danger”
“Knowledge: when you know a thing, to hold that you know it; and when you do not know a thing, to allow that you do not know it”
“Ignorance is the night of the mind, but a night without moon and star”
“When anger rises, think of the consequences”
“Respect yourself and others will respect you”
“A man who has committed a mistake and doesn’t correct it, is committing another mistake”
“The superior man acts before he speaks, and afterwards speaks according to his action”


No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.